Camille Henrot is recognized as one of the most influential voices in contemporary art today. Over the past twenty years, she had developed a critically acclaimed practice, encompassing drawing, painting, sculpture, installation and film. Inspired by literature, second-hand marketplaces, poetry, cartoons, social media, self help and the banality of everyday life, Henrot’s work capture the complexity of living as both private individuals and global citizens in an increasingly connected and over-stimulated world.
In 2013, Henrot received widespread critical acclaim for her film Grosse Fatigue, made during a fellowship at the Smithsonian Institution and awarded the Silver Lion at the 55th Venice Biennale in 2013. She elaborated ideas from Grosse Fatigue to conceive her acclaimed 2014 installation The Pale Fox at Chisenhale Gallery in London. The exhibit, which displayed the breadth of her diverse output, went on to travel to institutions including Kunsthal Charlottenburg, Copenhagen; Bétonsalon – Centre for art and research, Paris; Westfälischer Kunstverein, Münster, Germany; and Tokyo Opera City Art Gallery, Japan. In 2017, Henrot was given carte blanche at Palais de Tokyo in Paris, where she presented the major exhibition Days Are Dogs. She is the recipient of the 2014 Nam June Paik Award and the 2015 Edvard Munch Award, and has participated in the Lyon, Berlin, Sydney and Liverpool Biennials, among others.
Henrot has had numerous solo exhibitions worldwide, including the New Museum, New York; Schinkel Pavilion, Berlin; New Orleans Museum of Art; Fondazione Memmo, Rome; Tokyo Opera City Art Gallery, Japan, and the National Gallery of Victoria, Melbourne, among others. Recent solo exhibitions include Middelheim Museum (2022), Munch Museum (2022), Lokremise St. Gallen (2023) and Fondazione ICA Milano (2023). Henrot has an upcoming solo exhibition with Hauser & Wirth in NYC.
กามีย์ อองโรต์ ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศิลปินที่มีอิทธิพลมากที่สุดในวงการศิลปะร่วมสมัยปัจจุบัน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เธอได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากจากการสร้างสรรค์ของเธอ ซึ่งครอบคลุมเทคนิคการวาดเส้น จิตรกรรม ประติมากรรม ศิลปะจัดวาง และภาพยนตร์ อองโรต์ได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรม ตลาดมือสอง กวีนิพนธ์ การ์ตูน โซเชียลมีเดีย หนังสือ self-help และความซ้ำซากจําเจจากการชีวิตประจําวัน งานของอองโรต์มักสะท้อนปัญหาความซับซ้อนในการใช้ชีวิต ทั้งในฐานะบุคคลทั่วไป และพลเมืองโลก ในปัจจุบันที่โลกและผู้คนเชื่อมต่อกันอย่างง่ายดาย และในสภาพแวดล้อมที่มีแต่สิ่งเร้า
ในปี 2556 อองโรต์ได้รับการยกย่องจากผลงาน Grosse Fatigue ซึ่งถ่ายทําระหว่างที่ได้รับทุน Fellowship จากสถาบันสมิธโซเนียน และได้รับรางวัล สิงโตเงิน จากเทศกาลศิลปะเวนิสเบียนนาเล่ครั้งที่ 55 (ปี 2556) หลังจากนั้น ในปี 2557 อองโรต์ได้นำแนวคิดจากผลงาน Grosse Fatigue มาขยายความต่อในรูปแบบศิลปะจัดวางในนิทรรศการ The Pale Fox ที่ Chisenhale Gallery ลอนดอน นิทรรศการดังกล่าวซึ่งถ่ายทอดการทำงานที่หลากหลายของศิลปินนี้ได้เดินทางไปจัดแสดงที่สถาบันต่าง ๆ มากมาย รวมถึงที่ Kunsthal Charlottenburg, โคเปนฮาเกน; Bétonsalon – ศูนย์ศิลปะและการวิจัย, ปารีส; Westfälischer Kunstverein, มุนเสตอร์, เยอรมนี; และ Tokyo Opera City Art Gallery, ญี่ปุ่น ในปี 2560 อองโรต์ได้จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ชื่อ Days Are Dogs ที่หอศิลป์ Palais de Tokyo ปารีส เธอเป็นผู้รับรางวัล Nam June Paik Award ปี 2557 และรางวัล Edvard Munch Award ปี 2558 และได้เข้าร่วมแสดงในเทศกาลระดับนานาชาติมากมาย อาทิ ลิยงเบียนนาเล่ เบอร์ลินเบียนนาเล่ ซิดนีย์เบียนนาเล่ และลิเวอร์พูลเบียนนาเล่ และอื่น ๆ
อองโรต์ ได้จัดนิทรรศการมากมายทั่วโลก รวมถึงที่ พิพิธภัณฑ์ New Museum, นิวยอร์ก; Schinkel Pavilion, เบอร์ลิน; New Orleans Museum of Art, นิวออร์ลีนส์; มูลนิธิ Fondazione Memmo, โรม; Tokyo Opera City Art Gallery, ญี่ปุ่น และ National Gallery of Victoria, เมลเบิร์น เป็นต้น นิทรรศการล่าสุดอาทิ ที่พิพิธภัณฑ์ Middelheim (2565), พิพิธภัณฑ์ Munch (2565), Lokremise St. Gallen (2566) และ Fondazione ICA มิลาน (2566) และกำลังเตรียมนิทรรศการเดี่ยวที่แกลเลอรี Hauser & Wirth นิวยอร์ก