H.S.H. Princess Marsi Sukhumbhand Paribatra, known as MARSI, was a Thai surrealist-fantastic artist renowned for her beautiful paintings, which reflect the universal truth of life and death. Marsi was born at Bangkhumprom Palace, the only daughter of H.R.H. Prince Chumbhot and M.R. Pantip Paribatra, but lived most of her life abroad. She was remarkably talented in many areas, including literature, art history, painting, and music, and received Doctorate degrees in Literature from the University of Paris and in Art History from the University of Madrid. After giving up her teaching career, Marsi trained herself in art, and created paintings of unique and fantastic beauty, making her widely recognized internationally. The imaginary characters in her paintings are influenced by her extensive knowledge of literature, art history, mythology, and her love for classical music and animals, harmoniously combined with Eastern and Western philosophy into beautiful mesmerizing paintings.
Princess Marsi lived a simple life in a small village in Southern France for 40 years, surrounded by flowers, a river and a menagerie of animals, which were important elements in her life and her paintings. In 2004, Princess Marsi fell ill and was unable to paint but still lived amidst nature, music and pets in “Vellara” in Annot, France, until she passed away on 9th July 2013.
หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร หรือ MARSI เป็นศิลปินชาวไทยผู้สร้างสรรค์ภาพเขียนแนวเซอร์เรียลลิสต์-แฟนตาสติก ซึ่งมีความงดงามและสะท้อนสัจธรรมแห่งชีวิตและความตายได้อย่างตราตรึง หม่อมเจ้ามารศีฯ ทรงเป็นพระธิดาพระองค์เดียวของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ (เทวกุล) บริพัตร ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 2474 ที่วังบางขุนพรหม (ธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน)
หม่อมเจ้ามารศีฯ ทรงมีพระอัจฉริยภาพหลายด้าน อาทิ อักษรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลป์ วาดภาพ และดนตรี ทรงสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกในสาขาวรรณคดีจากมหาวิทยาลัย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และปริญญาเอกในสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะจากมหาวิทยาลัยแห่งมาดริด หม่อมเจ้ามารศีฯ ทรงงานในแวดวงวิชาการอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนทรงเริ่มศึกษาศิลปะด้วยพระองค์เอง และทรงสร้างสรรค์ผลงานภาพเขียนที่โดดเด่นงดงามเหนือจินตนาการ จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล ภาพวาดเปี่ยมจินตนาการของหม่อมเจ้ามารศีฯ ได้รับอิทธิพลจากองค์ความรู้ที่ลึกซึ้งด้านวรรณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ตำนานเทพปรณัม ความรักในบทเพลงคลาสสิกและสัตว์เลี้ยงนานาชนิด ผสานเข้ากับหลักปรัชญาตะวันตกและตะวันออกได้อย่างกลมกลืน สร้างสรรค์ขึ้นเป็นภาพเขียนที่ลุ่มลึกงดงามในแนวทางของตนเอง
หม่อมเจ้ามารศีฯ ทรงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่พระตำหนักในอานโนต์ เมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสกว่า 40 ปี แวดล้อมไปด้วยดอกไม้ ลำธาร และสัตว์เลี้ยงนานาชนิดซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในภาพเขียนและชีวิตของท่านเสมอมา หลังจากประชวรเมื่อปี 2557 หม่อมเจ้ามารศีฯ ไม่ทรงสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้เช่นเดิม แต่ยังคงประทับ ณ พระตำหนักเวลลารา ในเมืองอานโนต์ ประเทศฝรั่งเศส ท่ามกลางธรรมชาติ เสียงดนตรี และสัตว์เลี้ยง จวบจนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2556