Prasong

Luemuang

Thailand
1962

Prasong Luemuang was born and raised in a small village in Lamphun, Thailand. He attended school in the provincial capital before moving to Bangkok to complete his bachelor's degree in the Faculty of Painting, Sculpture, and Graphic Arts at Silpakorn University. His early works focused on rural life, animals, people, and culture, with a particular emphasis on facial expressions and unique colours and lines informed by Buddhist philosophy, beliefs, lifestyle, and local artistic style. Eventually, his subjects shifted from his environment to self-actualization, reflecting deeper self-reflection and the main themes in Buddhism: birth, ageing, illness, and death, as well as the elements– earth, water, air, and fire. He also explored the story of the human body and feeling, informed by his deep practice of meditation. Luemuang's work shows a variety of expressions and meanings, depending on his mood and the period in which it was created. Some pieces focus on delicate details, while others are more ferocious and angry.

Since Luemang started studying art in university at the Faculty of Painting, Sculpture, and Graphic Arts at Silpakorn University, he has received multiple awards. During his collegiate phase his wo4r Likit Sawan (ลิขิตสวรรค์) was awarded first prize in traditional Thai painting in the prestigious Bualuang Painting Competition (Bangkok, 1987); 1st Place Honors Certificate, Gold Medal (Painting) for Lamnam Arahant (ลำนำ อรหันต์) at the 34th National Exhibition of Art (Bangkok, 1988), honouring work during his lifetime such as Faith & Being: Singapore Art Museum Thai's Collection (Singapore Art Museum, Singapore, 2005); 60 ปี ราคาความเป็นฅน (60 Years, the Price of Humanity) (Chiang Mai Art Museum, 2022); คราส (Crass) by Prasong Luemuang (JWD Art Space Bangkok, 2023) Today, Prasong continues to make art every day in his hometown in Lamphun Province, Thailand.

ประสงค์ ลือเมือง เกิดและโตในหมู่บ้านเล็กๆจังหวัดลำพูน เล่าเรียนระดับประถมและมัธยมในตัวเมืองจังหวัด ก่อนจะย้ายไปศึกษาระดับปริญญาตรี ณ คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร การ ทำงานศิลปะในช่วงแรกจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิถีชีวิตชนบท ชีวิตสัตว์ ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน และวัฒนธรรม โดย เฉพาะอย่างยิ่งการให้ความสาคัญกับการแสดงออกทางใบหน้า และการใช้ลายเส้น สี ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดย นำหลักปรัชญาทางพุทธศาสนา ความเชื่อ วิถีชีวิต และชุมชนผสมผสานนำเสนอในผลงาน หลังจากนั้นได้ปรับ เปลี่ยนเรื่องราวจากสิ่งแวดล้อมที่พบปะ มาสู่การพิจารณาตัวเองในรูปแบบต่อมา จึงเป็นเรื่องตัวตนภายในมากขึ้น เรื่องหลักพุทธศาสนา เรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย และเรื่องของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เรื่องของร่างกายจิตใจของเราเอง ส่วนหนึ่งมาจากการปฏิบัติภาวนาสมาธิที่เข้มข้นมากขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกสนใจเรื่องภายในจิตใจ โดยตัดเรื่องสิ่ง แวดล้อมสภาพรอบตัวออกไปเกือบทั้งหมด หันมาสนใจเรื่องราวทางพุทธศาสนาโดยเฉพาะการฝึกปฏิบัติธรรม ทำให้มีผลอย่างมากต่อวิธีคิดและการสร้างผลงาน เนื่องจากการปฏิบัติธรรมทำให้จิตใจสงบ และในเวลาที่จิตสงบก็ เกิดมโนภาพที่พร้อมจะแปรเปลี่ยนเป็นผลงานศิลปะได้ตลอดเวลา ในงานสร้างสรรค์ของอาจารย์ประสงค์ให้ความ สำคัญต่อความรู้สึกที่ต้องการนำเสนอ ไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นงานลักษณะนั้นหรือลักษณะนี้ แต่จะเน้นไป ตามช่วงอารมณ์ ผลงานบางชิ้นบางช่วงเวลาให้ความสำคัญกับรายละเอียด ความปราณีต ในขณะที่บางช่วงเวลา แสดงอารมณ์ดุเดือดรุนแรง รวดเร็ว ผลงานในแต่ละช่วงเวลาจึงมีความหลากหลายทางแนวความคิดและการ แสดงออก

นับตั้งแต่เริ่มเรียนศิลปะในระดับปริญญาตรี ณ คณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร อาจารย์ประสงค์ได้รับรางวัลการประกวดมากมาย รางวัลทรงคุณค่าที่ได้รับระหว่างศึกษาระดับปริญญาตรี เช่น รางวัลชนะเลิศศิลปกรรมจิตรกรรมแบบไทยประเพณี ผลงาน ลิขิตสวรรค์ ในการประกวดจิตรกรรมบัวหลวง (กรุงเทพฯ, พ.ศ. 2530); รางวัลประกาศนียบัตรเกียรตินิยม อันดับ 1 เหรียญทอง (จิตรกรรม) ผลงาน ลำนำ อรหันต์ ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 34 (กรุงเทพฯ, พ.ศ. 2531) การแสดงงานอันเป็นเกียรติประวัติใน ช่วงชีวิต เช่น Faith & Being: Singapore Art Museum Thai's Collection (Singapore Art Museum, สิงคโปร์, พ.ศ. 2548); 60 ปี ราคาความเป็นฅน (พิพิธภัณฑ์ศิลปะเชียงใหม่, พ.ศ. 2565); คราส โดย ประสงค์ ลือเมือง (JWD Art Space กรุงเทพฯ, พ.ศ. 2566) ในปัจจุบัน อาจารย์ประสงค์ยังคงทำงานศิลปะทุกวัน ณ บ้านเกิดในจังหวัดลำพูน ประเทศไทย

On Display at BAB2024