Barkcloth-Dark Cloth (process documentation)

(
2024
)
<
1
/
2
3
>
Artwork Details
Costume installation
Displayed at
National Gallery of Thailand

Mella Jaarsma’s unique practice intersects sculpture, clothing, architecture, and installation. Her works explore the transformative and always pushes against conventional limits in art. Drawing on aesthetic, material, and cultural histories from her adopted home, Jaarsma is also concerned with retrieving lost histories of making and meaning. In Barkcloth-Dark Cloth she continues the earlier series At First There’s Black. Working in collaboration with the artist Agus Ongge from the province of Papua, this installation is an inquiry into tensions between authenticity and commodification. Employing the material of barkcloth, the installation evokes its traditional use as blankets, loin cloth, and sarongs.  As paintings on barkcloth are now used for tourist markets, the history of beaten bark for clothing can be forgotten or erased. Two accompanying videos provide insights into this collaboration and the vexed histories of tradition and modernity amidst colonialism and different nationalist governments in Indonesia.

BAB 2024 acknowledges Embassy of the Netherlands in Thailand and ROH Projects, Jakarta, for their support with the participation of these artists.

การทำงานศิลปะอันมีเอกลักษณ์ของเมลลา จารส์มาเป็นจุดตัดของงานประติมากรรม เครื่องนุ่งห่ม สถาปัตยกรรมและศิลปะจัดวาง งานของเธอสำรวจการเปลี่ยนแปลงและท้าทายขีดจำกัดเดิม ๆ ในการทำงานศิลปะอยู่เสมอ จารส์มาใช้ประวัติศาสตร์ทางสุนทรียะ วัสดุและวัฒนธรรมจากบ้านใหม่ของเธอและสนใจนำประวัติการสร้างและการให้ความหมายที่หายไปกลับมาใหม่ งาน Barkcloth-Dark Cloth พัฒนาต่อจากงานชุดก่อนหน้านี้ที่ชื่อ At First There’s Black จารส์ร่วมงานกับอกุส อ็องกีศิลปินจากจังหวัดปาปัวในการสร้างงานศิลปะจัดวางชิ้นนี้ ตั้งคำถามกับความขัดแย้งระหว่างความเดิมแท้กับการทำให้เป็นสินค้า งานศิลปะจัดวางที่ใช้วัสดุอย่างผ้าเปลือกไม้นี้สะท้อนประโยชน์ใช้สอยแบบดั้งเดิมที่ทำเป็นผ้าห่ม ผ้าเตี่ยวและโสร่ง ปัจจุบันนิยมวาดภาพบนผ้าเปลือกไม้ขายนักท่องเที่ยว ประวัติการนำเปลือกไม้มาทำเครื่องนุ่งห่มจึงอาจถูกลืมหรือลบไป วีดิทัศน์ที่ฉายประกอบทั้งสองชิ้นช่วยให้ผู้ชมเข้าใจการร่วมมือกันครั้งนี้ตลอดจนความเป็นมาที่สลับซับซ้อนของขนบประเพณีและความเป็นสมัยใหม่ซึ่งอยู่ท่ามกลางลัทธิล่าอาณานิคมและรัฐบาลชาตินิยมหลายชุดของอินโดนีเซีย

BAB 2024 ขอขอบคุณสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทยและหอศิลป์อาร์โอเอช โพรเจคทส์ กรุงจาการ์ตาที่ได้สนับสนุนศิลปินให้เข้าร่วมแสดงงานครั้งนี้